วันที่ 13 ก.พ.68 เวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินต๊ะสืบ ผบก.กต.5 รรท. ผบก.กต.6 เอี่ยวโยงกับธุรกิจเมียวดีคอมเพล็กซ์ เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในคณะกรรมการดังกล่าวทั้งหมด เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร. ให้สอบสวนกรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลที่เชื่อมโยงตำรวจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์ โดยได้ตั้งชุดคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ซึ่งแนวทางคณะทำงานจะมุ่งเน้นสอบสวนพฤติกรรมของพล.ต.ต.เอกราษฎร์ ให้แน่ชัดก่อนว่าเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์หรือไม่ และเกี่ยวข้องในด้านใด รวมถึงมีบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเกี่ยวข้องหรือ ไม่ยืนยันจะสอบสวนในทุกมิติ ซึ่งในชุดทำงานจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ บก.ปปป. ,ตำรวจ บก.ปอท. และ ตำรวจ บก.ปอศ.
ส่วนมูลเหตุที่ทำให้ ผบ.ตร. สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามาจากประเด็นใดนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ แต่อยากขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่มีการตั้งธงหรือวางประเด็นว่าจะเอาผิดทางวินัยหรืออาญา หรือ จริยธรรมเพียงแต่ต้องการความชัดเจนว่า นายตำรวจคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องจริงหรือไม่และเกี่ยวข้องอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของตำรวจ
อีกทั้ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางทำงาน ขณะนี้มีการตั้งโครงสร้างตัวละครต่างๆที่อาจจะเกี่ยวข้องทั้งผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และ ผู้มีอำนาจในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเพื่อวางแนวทางสืบสวนหารายละเอียด และแม้ว่าก่อนหน้านี้ จเรตำรวจจะมีการสอบสวนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว แต่ก็เป็นคนละส่วนกัน และจากกรณีที่มีข้อมูลว่ามีบุคคลใกล้ชิดของนายตำรวจคนดังกล่าว รับช่วงต่อดูแลกิจการนั้น ยืนยันว่ามีข้อมูลชุดนี้อยู่แล้ว และ หากมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น รวมถึงนายตำรวจอีก 5 นาย ในพื้นที่จังหวัดตากซึ่งปรากฏคำสั่งโยกย้ายเช่นกัน