“บิ๊กปู” พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์  ผบ.ทบ. ที่นั่งเก้าอี้ ยาว 3 ปี กำลัง ถูกจับตามอง เพราะถือว่าเป็นผบ.ทบ.ที่เก้าอี้มั่นคงแข็งแรง

อีกทั้งเป็นผบ.ทบ. ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงในยุคเปลี่ยนผ่าน ทั้งการเปลี่ยนผ่านของ หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) และ ในระหว่างการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนรมว.กลาโหม

เป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญจาก ผบ.ทบ.คอแดง คนสุดท้าย ที่ได้ใส่คอแดง เป็นเวลา 1 เดือน และเป็นผบ.ฉก.ทม. รอ. 904 คนสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนกลับมาเป็น ทหารคอเขียว และเป็น ผบ.ทบ.ที่ไม่ต้องเป็น ผบ.ฉก.คอแดง 

โดยมีการปรับโครงสร้างให้แม่ทัพภาค1 เป็นผบ.ฉก.ทม. รอ. 904  หลังเกิดปัญหาในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งใหญ่เมื่อกันยายน 2567 ส่งผลให้ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย  หินเธาว์ ผบ. ทบ. คอแดงในเวลานั้น สายทหารเสือราชินีของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ที่ต้องดับเครื่องชน กับ อำนาจนอก ทบ. 

ดัน “บิ๊กใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา จากแม่ทัพน้อย1 น้องเลิฟสายทหารเสือราชินี  ขึ้นแม่ทัพภาค1 เข้าไลน์สู่การเป็นผบ.ทบ. และตามมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของ ผบ.ฉก.ทม. รอ. 904 และทหารคอแดงในกองทัพ เมื่อให้แม่ทัพภาค1 เป็น ผบ.ฉก.ทม. รอ. 904 ทำให้นายทหารชั้นนายพลคนอื่นๆที่เคยเป็นทหารคอแดง ต้องมีการปลดถอดคอแดง กลับมาเป็นทหารคอเขียว รวมทั้ง “บิ๊กอ็อบ” พล.อ.ทรงวิทย์  หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ส่งผลให้ พล.อ.พนา กลับมาเป็นผบ. ทบ. ที่มีอำนาจเต็มในการจัดทัพแต่งตั้งโยกย้าย โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้ ฉก.ทม. รอ. 904

จากที่เดิมผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผบ.ฉก.ทม. รอ. 904 ต้องรับบัญชีรายชื่อในส่วนของทหารคอแดง จาก ฉก.ทม. รอ. 904  ซึ่งมีคีย์แมนคนสำคัญที่เป็นทหารคอแดงนอกกองทัพบก มีบทบาทสำคัญในการจัดวางตัวนายทหารคอแดงที่จะลงตำแหน่งในกองทัพบก ซึ่งเป็นการลดอำนาจ ผบ.ทบ.

ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใน ฉก.ทม. รอ. 904 ใหม่  มีแค่ แม่ทัพภาค1 เป็น ผบ.ฉก.ทม. รอ. 904  ที่ต้องส่งบัญชีรายชื่อมาให้ ผบ.ทบ.  พิจารณา อำนาจสุดท้าย

แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผบ.ทบ.ก็ยังคงต้องฟัง “คีย์แมนทหารคอแดงนอกกองทัพบก” ต่อไป

เพราะ พล.อ.พนา ก็เคยเป็นทหารคอแดงและอยู่ในฉก.ทม. รอ. 904 และเคยเป็นผบ.ฉก.ทม. รอ. 904 มาก่อน และมีสายสัมพันธ์อันดี กับ แกนนำเตรียมทหาร 28  เป็นส่วนใหญ่

จึงทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลกลางปี หรือโผเมษายนนี้ พล.อ.พนา ถูกจับมองว่าจะจัดโผในแนวทางใด แม้จะขยับได้ไม่มาก  แต่ก็เป็น โผนายพล โผแรก ที่ พล.อ. พนา ได้จัดเอง ในฐานะ ผบ.ทบ.คอเขียว ที่เคยเป็น คอแดง

แม้จะมีโอกาส ที่จะจัดโผนายพล มากถึง 6 ครั้ง ใน 3 ปี ทึ่เป็น ผบ.ทบ. ก็ตาม แต่เชื่อกันว่า พล.อ. พนา จะต้องเล็งผลเลิศ ในการจัดโผ แต่ละครั้ง  และแน่นอนว่า  จะต้องเผชิญกับแรงกดดัน จากหลายทิศทาง

โดยเฉพาะการจัดทัพ ในกองทัพภาค1 ที่เป็น กองทัพภาคเดียวของ ทบ. ที่เป็นทหารคอแดง ใน ฉก.ทม.รอ.904 

หลังจากมีกระแสข่าวว่า จะมีการขยับหมากบางตัว ในกระดานอำนาจ ทัพภาค1  จากตำแหน่งที่ว่างลง จากการลาออกก่อนเกษียณ  หลังกลาโหม มีระเบียบใหม่ เปิดช่องให้ ลาออก แม้จะเหลืออายุราชการ แค่ 6 เดือน ก็ตาม เพื่อให้ได้ยศสูงขึ้น และอาจต้องมีการขยับ ตำแหน่งหลัก ที่จะเกษียณ เพื่อให้ได้เป็น พล.อ. 

เช่น ตำแหน่ง  ผู้บัญชาการกองบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.)  เพราะ พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร จะเกษียณต.ค.2568 นี้ ตามหลักการ ก็ควรจะได้เป็นพล.อ. ก่อนเกษียณ  ยกเว้น ในกรณีที่เจ้าตัว ต้องการทำหน้าที่เดิมต่อ จนเกษียณ  เพราะตำแหน่งยศ พล.อ. ในโผกลางปี มีน้อย  แต่ พล.ท.ทวีพูล เป็น  ตท.25  แต่ พล.อ.พนา เป็น ตท.26  ที่มีเพื่อนหลายคน ที่เหมาะสม และอาจโยกมาเสียบยอดได้   แต่ทว่า  นายทหารรุ่นพี่ ตท.25 อยู่ใน นรด.หลายคน ที่จ่อพร้อมขึ้นแทน

และยังมีตำแหน่งว่าง เช่น เจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ  หลังจากที่ เจ้ากรมยศ.ทบ. คนเดิม ถูกโยกย้าย จากการถูกร้องเรียน  ที่มีข่าวว่า พล.อ. พนา จะขยับ  พลตรี  อาวุธ พุทธอำนวย ผบ.ศร. เพื่อน ตท.26 มานั่งเก้าอี้นี้

จึงต้องวัดใจ พล.อ. พนา  ที่อาจจะใช้จังหวะนี้ ในการขยับหมาก ตัวแรก  หรือไม่ เพราะมีช่อง ให้ขยับอยู่บ้าง  แต่อาจขยับอุดรูอุดช่อง ไม่ให้มีการขยับ

เพราะกำลังเป็นที่จับตามองว่า  อาจมีการขยับ “รองมด” พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร  รองแม่ทัพภาค 1 ที่่เป็นทหารม้า  ที่ไม่อาจขึ้น แม่ทัพภาค1 ได้ เพราะจะต้องมาจากทหารราบ  เพื่อเปิดทางให้ “รองลาภ” พล.ต.สิทธิพร จุลปานะ รองแม่ทัพน้อย 1 ขยับ มาเป็น รองแม่ทัพภาค1 เพื่อชิงเก้าอี้ แม่ทัพภาค1

แต่แน่นอนว่า  แคนดิเดท แม่ทัพภาค1 และ ผบ.ทบ. มีหลายคน  โดยเฉพาะ ตท.28 ก็ย่อมไม่ต้องการให้ พล.ต.สิทธิพร รุ่นน้อง ตท.30 ขึ้นมา   ก็อาจจะมีแรงให้ ฟรีซ รองแม่ทัพภาค1 ทั้ง 3 เก้าอี้ไว้   รอขยับ ในโผใหญ่ กย. นี้

ทั้งนี้ ในระดับ รองแม่ทัพภาค1 เป็น ตท.28 ทั้ง 3 คน  คือ “รองกอล์ฟ” พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ พล.ต. อาจิณ และ “รองแอ้ม” พล.ต.ณัฐเดช  จันทรางศุ

แม้จะมีรายงานข่าวว่า  พล.ท.อมฤต ไม่ได้มีการเสนอเปลี่ยนแปลงในระดับ รองแม่ทัพภาค 1  ในโผเมษาฯ นี้  เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม

แต่ทว่า อำนาจ อยู่ที่ พล.อ. พนา และ คีย์แมน คอแดงนอกทบ. จะพิจารณาร่วมกัน อย่างไม่เป็นทางการ

หากดูจาก ขั้วฝ่ายแล้ว  พล.อ.พนา ก็คงยังไม่ต้องการ ให้มีการขยับ ในโผเมษาฯนี้   แต่ทว่า แรงหนุน พล.ต.สิทธิพร  ก็ไม่ธรรมดา  จึงยังคงต้องจับตามองกันอย่างใกล้ชิด

กล่าวกันว่า  หากโผเมษาฯนี้  พล.อ. พนา ไม่ขยับรองแม่ทัพภาค1  ก็สะท้อน ได้ว่า สายสัมพันธ์กับ ตท.28 ยังเหนียวแน่น  และโอกาสที่  แม่ทัพภาค1 คนต่อไป จะเป็น ตท.28 คนใดคนหนึ่ง ทั้ง “บิ๊กไก่” พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ  แม่ทัพน้อย1 พล.ต.สราวุธ และ พล.ต.ณัฐเดช

แต่ไม่อาจมองข้าม ขั้วอำนาจทหารเสือราชินี  ในทบ. ที่แข็งแกร่ง  จากปฏิบัติการทิ้งทวนของ พล.อ. เจริญชัย ก่อนเกษียณ  ที่แบ็คอัพ พล.ท.อมฤต  จาก ตท.27 อยู่

พล.ท.อมฤต และ พล.ท.วรยส เกษียณ ต.ค.2571 พร้อมกัน  ดังนั้น จึงจะมีแค่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น ที่จะเป็น ผบ.ทบ.  แต่อาจจบด้วย สูตรรอมชอม  ของคีย์แมนหลังฉาก กับ ขั้วทหารเสือฯ และ ตท.28   เช่น ให้ พล.ท.อมฤต เดินตามไลน์ ขึ้น 5 เสือ ทบ. อละ ผบ.ทบ.  และจากนั้น ต่อด้วย ตท.28 เช่น พล.ต.สราวุธ ที่เกษียณ 2573  ก็เป็นได้

โผเมษาฯ  ที่จะเสร็จสิ้น  และเข้าที่ประชุม บอร์ด 7 เสิอกลาโหม ในต้น มีนาคม นี้ จะเป็นดัชนี ชี้วัด  สมการอำนาจ ในทบ. ยุค พล.อ. พนา ได้เป็นอย่างดี